ในขณะที่ร้านค้าขายปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ Amazon เขย่าวงการด้วยการซื้อกิจการร้าน Whole Foods ตอนนี้ Kroger บริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐ ก็ตอบโต้ด้วยการจับมือกับ Ocado ซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของอังกฤษ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีก้าวหน้าในโกดังสินค้า
เดิมที มีเพียงโรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์เท่านั้น ที่นำหุ่นยนต์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบรถยนต์ แต่ต่อมา บรรดาร้านค้าปลีกเริ่มนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในคลังสินค้าของตน เพื่อช่วยให้การจัดส่งสินค้า เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
การนำหุ่นยนต์มาใช้ ช่วยให้พนักงานไม่ต้องเดินไกลๆ เพื่อไปหยิบของจากชั้น มาบรรจุลงกล่อง หุ่นยนต์สามารถจำแนกประเภท และค้นหาสินค้าได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ ช่วยให้สามารถจัดส่งสินค้าตามบ้าน ในวันเดียวกันกับที่สั่งซื้อได้
นักวิเคราะห์การลงทุน Gary White กล่าวว่า การที่ Kroger ร้านค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ของ สหรัฐ จับมือกับ Ocado ซุปเปอร์มาเก็ตออนไลน์ ซึ่งเป็นเจ้าของคลังเก็บสินค้าอัจฉริยะ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปนั้น อาจช่วยให้สภาพการเงินของ Ocado ดีขึ้น เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของ ผลกำไร และอาจช่วยให้การจัดส่งสินค้าของ Kroger รวดเร็วยิ่งขึ้น
หุ่นยนต์ที่ทำงานด้วยแบตเตอรีเหล่านี้ สามารถเคลื่อนตัวได้ไกลถึง 4 เมตรต่อวินาที ติดต่อสื่อสารด้วยเครือข่ายไร้สาย 4G เหมือนกับเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือ
หุ่นยนต์สามารถบรรทุกของได้หนักถึง 10 กิโลกรัม และสามารถจัดเตรียมสินค้าได้มากถึง 50 ชิ้นเพียงในเวลาไม่กี่นาที
ที่สำคัญหุ่นยนต์จะถูกควบคุมด้วยระบบที่เหมือนกับระบบที่ใช้ในการควบคุมการจราจรทางอากาศ ช่วยให้จัดส่งสินค้าได้สัปดาห์ละ 65,000 รายการ
ในปีนี้ Kroger ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐถึง 2,800 แห่งภายใต้ชื่อต่างๆ วางแผนสร้างโกดังขนาดเล็กให้เช่าสินค้าที่ใช้ระบบจัดการอัตโนมัติ 3 แห่งในสหรัฐ และอาจเพิ่มอีก 20 แห่งในปีหน้า
ปัจจุบัน มีการนำการจัดส่งสินค้าด้วยหุ่นยนต์มาทดลองใช้แล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมชี้ว่า การจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคตามบ้านเรือน อาจจะกลายเป็นกลุ่มแรกในอุตสาหกรรมร้านค้าปลีก ที่ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ก็เป็นได้
Credit : https://www.voathai.com/a/robots-speed-up-grocery-deliveries/4407049.html